วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เขาสก-เขื่อนรัชชประภา


             สวัสดีค่ะ หลังจากผ่านช่วงสงกรานต์ไป ก็ได้มีโอกาสไปออกทัวร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ก็ลงไปทางภาคใต้เหมือนกัน นั่นก็คือจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถ้าพูดถึงจังหวัดนี้ ทุกคนคงนึกถึงของฝากขึ้นชื่ออย่างไข่เค็มไชยา และสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังอย่าง เขื่อนรัชชประภา 
           ในทริปนี้ (ทัวร์เขาสก) เราเดินทางกันวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2557 โดยลูกทัวร์กรุ๊ปนี้เป็นกรุ๊ปใหญ่ ประมาณ 50 กว่าท่าน ของบริษัทนามยืนยง ชิปปิ้ง ไปรับลูกทัวร์ประมาณหกโมงเย็น โดยแบ่งเป็น 2 มินิบัส ได้รับมอบหมายให้อยู่บัส 1 โดยไกด์ประจำบัสนี้คือ ไกด์เอมมี่ พี่ยุ้ยเป็นฝ่ายประสานงาน และมีสต๊าฟเป็นน้องผู้ชายชื่อป๊อปปี้ ไกด์พี่เอมมี่ ได้พูดแนะนำตัวและบอกรายละเอียดโปรแกรมทัวร์อย่างคร่าวๆ สำหรับมื้อเย็นของวันเริ่มเดินทาง ได้แวะรับประทานอาหารกันที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากนั้นปล่อยให้ลูกทัวร์พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เดินทางถึงเช้า แวะให้ลูกทัวร์ทำธุระส่วนตัว 








หลังจากนั้นขึ้นรถเพื่อไปจุดชมวิวบนสันเขื่อน ซึ่งตรงจุดชมวิวนี้มีความสวยงามมาก มีหมองจางๆ อากาศเย็นสบาย ถ่ายรูปหมู่ลูกทัวร์ และให้ลูกทัวร์ถ่ายรูปกันเองตามอัธยาศัย เมื่อถึงเวลานัดแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารที่เราไปรับประทานนี้ จะอยู่ติดกับท่าเรือที่จะพาพวกเราล่องไปตามจุดๆต่างของเขื่อนรัชชประภา เมื่อรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ก้อพาลูกทัวร์ลงเรือ พาไปชมความงามของเขาสามเกลอ หรือที่เราเรียกกันว่ากลุ้ยหลินเมืองไทย มีความสวยงามมาก ระหว่างทางที่ล่องเรือ มีแดดจัด แต่อากาศค่อนข้างเย็นสบายมีลมพัดตลอด บรรยากาศรอบเขื่อนสวยงามมาก แวะให้อาหารปลาที่แพนางไพร จะมีปลาตะเพียนหางแดงจำนวนมาก ซึ่งมีเองตามธรรมชาติ 








หลังจากบริการอาหารกลางวันแล้ว ก็ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป ก็คือถ้ำปะการัง โดยพวกเราทุกคนต้องเดินเท้าไปประมาณ 1.5 กม. เพื่อไปลงแพไม้ไผ่ที่ ทะเลใน 500 ไร่ เพื่อล่องไปชมความงามของถ้ำปะการัง ภายในถ้ำปะการังจะมีความสวยงามมาก ถือว่าเป็นถ้ำที่ค่อนข้างมีความสมบูรณ์มาก ทางไกด์ท้องถิ่นที่พาพวกเราเข้าไปภายในถ้ำจะคอยส่องไฟให้เราดูนั่นดูนี่ตลอด ว่าตรงนั้นถ้าสังเกตดีๆจะเป็นรูปผู้หญิงนะ ตรงนั้นจะเป็นรูปเหมือนผ้าม่านย้อยลงมานะ ซึ่งทุกคนต่างก็ได้ความรู้กันไปเต็มที่ หลังจากชมความงามของถ้ำปะการังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ล่องเรือกลับไปที่ฝั่งและเดินเท้ากลับทางเดิม 1.5 กม. เพื่อรีบลงเรือออกจากเขื่อนรัชชประภา ตอนขากลับนั้นฝนตก ลมแรง เปียกกันทุกคน แต่ก็กลับถึงฝั่งท่าเรือกันโดยสวัสดิภาพ โดยคืนแรกเราเข้าพักกันที่มะลิรีสอร์ท พักผ่อนตามอัธยาศัย พอเช้าวันต่อมา บริการอาหารเช้าเป็นพวกข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง ชา กาแฟ เราเริ่มออกจากรีสอร์ทกันประมาณ 10 โมง หลังจากนั้นก็ไปแวะทานข้าวเที่ยงทีร้าน เขาสก ริเวอร์ลอร์ด อาหารร้านนี้อร่อยมาก เติมได้ตลอด ลูกทัวร์ทุกคนชอบ ชมว่าอาหารอร่อยมาก โปรแกรมเที่ยววันนี้จะไม่ค่อยมีอะไรมาก สบายๆ 



พอรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก็เข้าที่พักที่ ภูผาและลำธาร รีสอร์ท ตรงนี้ถือว่าเป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคน เพราะบรรยากาศรอบข้างมันดีมากจริงๆ เย็นวันนั้นฝนตกหนัก ทุกคนรีบเข้าห้องพัก เวลาประมาณหกโมงเย็น ฝนหายตกแล้ว ทุกคนออกมาถ่ายรูปกันข้างนอก มันสวยมากจริงๆ เหมือนเรากำลังอยู่บนดอยอะไรซักอย่าง มีหมอกจางๆ อากาศเย็นสบาย เชื่อว่าประทับใจลูกทัวร์ทุกคนแน่ๆ 





สำหรับมื้อเย็นทางเรากับลูกทัวร์กลุ่มหนึ่งได้วางแผนจัดเตรียมปาร์ตี้วันเกิดให้กับลูกค้าท่านหนึ่ง เตรียมเค้ก เตรียมทุกอย่างกันเรียบร้อย ลูกทัวร์ดีใจมาก ทุกคนแฮปปี้ สนุกสนาน เข้านอนพร้อมรอยยิ้ม เช้าวันสุดท้ายของการอยู่ที่สุราษฎร์ธานี เรารับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย หลังจากนั้นก็เดินทางไปไหว้พระธาตุไชยา ฟังธรรมจากหลวงพ่อ ซึ่งได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตที่ดีมาก ถือเป็นการรับพร ก่อนเดินทางกลับ กทม. แวะซื้อของฝาก ส่วนมากเราจะซื้อไข่เค็มไชยากับสะตอ สองอย่างนี้ถือเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและของพื้นถิ่นประจำภาคใต้ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ กทม. แวะรับประทานอาหารเย็นที่ร้านคุณสาหร่าย จ.ชุมพร หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ กทม. ถึงโดยสวัสดิภาพ

เครดิตข้อมูล :  ทัวร์เขาสก

เมืองกระบี่ ปักษ์ใต้บ้านเรา


           สวัสดีค่ะ หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในบริษัททัวร์ ดับเบิ้ลเอ็นจอย ทราเวล ประมาณวันที่ 1 เม.ย.2557 เข้ามาทำงานในฝ่ายขาย และเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้เอง ได้มีโอกาสไปดูงานกับพวกพี่ๆ ที่จังหวัดกระบี่ (ทัวร์กระบี่) เพื่อเก็บเอามาเป็นประสบการณ์ในการออกทัวร์ครั้งต่อไป ซึ่งถ้าเรารู้เส้นทาง สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ แน่นอนแล้ว ครั้งต่อไปเราต้องสามารถออกทัวร์เดี่ยวเองได้
          เริ่มออกเดินทางเมื่อวันที่ 12-15 เมษายน 2557  มุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่ โดยนัดเจอลูกค้าที่บิ๊กซี Extra ลาดพร้าว ซอย 7 เวลาประมาณ 19.30 น. โดยได้รับมอบหมายให้อยู่รถตู้คันที่ 1 ทริปนี้จะมีทั้งหมด 2 ตู้ โดยลูกทัวร์คันที่ 1 จะเป็นแบบกรุ๊ปจอย ต่างคนต่างมา ไม่รู้จักกัน แต่จะมากันเป็นคู่ๆ ก็จะมีคู่พี่เล็กพี่แป้งเป็นเพื่อนกัน คู่คุณแม่สมนึกกับน้องกลอย คู่รักพี่อุ๋มพี่ตั้ม และคู่หมอเบิร์ดกับคุณพ่อ เมื่อมากันครบทุกคน เช็คชื่อเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางกัน ระหว่างทางก็ได้แจกอาหารว่างให้กับลูกทัวร์ทุกท่าน ไกด์ประจำทริปนี้ ชื่อพี่จุ๋ม ไกด์ได้พูดแนะนำตัว และรายละเอียดโปรแกรมทัวร์สำหรับวันพรุ่งนี้เช้าอย่างคร่าวๆ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลูกทัวร์ได้พักผ่อนกันเต็มที่ เพื่อพร้อมที่จะลุยกับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้เช้า เวลาประมาณหกโมงเช้า เราก็ให้ลูกค้าทำธุระส่วนตัวที่ปั๊ม หลังจากนั้นก็พาไปรับประทานอาหารเช้า ซึ่งมื้อนี้จะเป็นติ่มซำ ลูกค้าต่างก็ชอบกัน ชมว่าอาหารอร่อย หลังจากนั้นก็นำสัมภาระไปเก็บที่พัก ที่พักของทริปเราทริปนี้ จะพักที่ศรีสุขสันต์ รีสอร์ท สะดวกสบาย ติดชายทะเล ทางไกด์แจ้งลูกทัวร์ให้เปลี่ยนชุดเพื่อไปดำน้ำตามโปรแกรมที่จัดไว้ โดยวันนั้นทั้งวันเราจะมีแต่กิจกรรมดำน้ำตามเกาะต่างๆ ในวันแรก จะนั่งเรือสปีดโบ๊ท ไปที่ถ้ำพระนาง ตรงจุดนี้จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเล่นน้ำและกราบไหว้ ขอพร ศาลพระนาง ซึ่งถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก จุดมุ่งหมายต่อไปก็คือ เกาะปอดะ เกาะสี่ ซึ่งตรงเกาะสี่นี้ เป็นจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่งที่ถือว่ามีความสวยงาม น้ำใสมาก 







หลังจากดำน้ำตรงนี้เสร็จแล้ว ทางกัปตันเรือก็ได้พาพวกเราไปชมเกาะต่างๆ เช่นเกาะไก่ ที่มีรูปร่างของเกาะคล้ายไก่กำลังชูคออยู่ เห็นได้อย่างชัดเจน จบทริปสำหรับวันแรกซึ่งผ่านไปได้ด้วยดี นำลูกทัวร์กลับเข้าที่พัก ช่วงเย็นพาไปรับประทานอาหารที่กุลากาศัย ลูกทัวร์ทุกท่านชอบอาหารที่นี่มาก ชมกันว่าอร่อยมาก ในสำหรับวันแรกนี้ถือว่าเป็นการจบทริปที่ดีและลูกค้ามีความสุขกันทุกคน สำหรับโปรแกรมวันที่สองนั้น ก็ยังคงเป็นการพาไปชมยังเกาะต่างๆ ดำน้ำ แต่ในส่วนของวันที่สองนี้ จะไปทางฝั่งหมู่เกาะพีพี ได้ไปทะเลแหวก เกาะไม้ไผ่ ถ้ำไวกิ้ง อ่าวปิเละหรือลากูน ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีความสวยงามมากจริงๆ ตอนอยู่บนเรือได้นั่งใกล้ๆกับไกด์พี่จุ๋ม พี่จุ๋มคอยบอกตลอดว่าทำไมถึงเรียกแบบนี้ ซึ่งตรงลากูนนี้ พี่จุ๋มบอกว่ามันจะเป็นเหมือนห้องรับแขกเลย เรือแล่นเข้าไปชมความงาม รู้สึกประทับใจตรงนี้มากจริงๆ หลังจากนั้นก็ไปที่อ่าวมาหยา ซึ่งเราได้เคยรับรู้มาก่อนแล้วว่าสถานที่ตรงนี้เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง "The Beach" ซึ่งเคยได้ดูหนังเรื่องนี้ เราก็ชอบมาก รู้ว่าถ่ายทำที่นี่ ได้แต่เคยอ่าน เคยมีคนบอก แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้มาเห็นกับตาตัวเองก็วันนี้เอง ในความรู้สึกแวบแรกที่เห็นอ่าวมาหยา คือถ้าไม่มีเรือทั้งหลายมาจอดเรียงกันตรงชายหาด อ่าวนี้มันจะสวยงามมากจริงๆ แต่ก็นึกกลับไปว่า ถ้าไม่มีเรือมาจอด เราจะมาที่นี่กันได้ยังไง







มื้อกลางวันเราพาลูกทัวร์ไปรับประทานอาหารที่เกาะพีพี ชื่อว่าร้านอาหารชาวเกาะ เป็นแบบบุฟเฟต์ ซึ่งบรรยากาศภายในร้าน อยู่ท่ามกลางชาวต่างชาติ เหมือนว่าไม่ได้อยู่เมืองไทยเลย คนไทยที่เห็นในวันนั้นมีเพียงกลุ่ม สองกลุ่มแค่นั้นจริงๆ หลังจากนั้นก็ขึ้นเรือ ทางกัปตันได้พาไปดำน้ำ ใกล้ๆกับเกาะไม้ไผ่ ตรงนี้ลูกทัวร์บอกว่าปะการังสวยงามมาก ปลานีโมก็ค่อนข้างเยอะกว่าตรงจุดอื่น ลูกทัวร์ประทับใจมาก หลังจากนั้นก็นำลูกทัวร์ทุกท่านขึ้นเรือ กลับเข้าที่พัก ทำธุระส่วนตัว และบริการอาหารเย็น เป็นอันจบทริปในส่วนของวันที่สอง เช้าวันที่สาม วันสุดท้ายที่ทางทริปเราจะได้อยู่ที่กระบี่ โดยในวันสุดท้ายนี้ จะไม่มีกิจกรรมดำน้ำแล้ว โดยที่แรกที่ไป จะเป็นสุสานหอย 75 ล้านปี บรรยากาศค่อนข้างดี ลมเย็นสบาย ที่ตรงนี้มีการถ่ายรูปหมู่ให้กับลูกทัวร์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ปล่อยให้ลูกทัวร์ถ่ายรูป นั่งเล่น ซื้อของที่ระลึก ตามอัธยาศัย 








เมื่อถึงเวลานัดแล้ว ก็ขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปที่สระมรกต ซึ่งเป็นสระน้ำธรรมชาติ ที่มีสีสันสวยงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ ลูกทัวร์ได้ลงเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงเวลานัดแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ก็คือน้ำตกร้อน มีบริการอาหารกลางวันบริเวณหน้าน้ำตกร้อน มื้อนี้จะเป็นพวกส้มตำ ไก่ย่าง อาหารที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ซึ่งเป็นที่ถูกใจบรรดาลูกทัวร์เป็นอย่างมาก หลังจากรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางเท้าเข้าไปในเขตน้ำตกร้อน ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย 




หลังจากนั้นก็ขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ กทม. ระหว่างทางได้มีการแวะร้านของฝาก ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้คือน้ำพริกกุ้งเสียบ ลูกทัวร์ได้ซื้อกันมาเยอะมาก เพราะก่อนซื้อทางร้านมีบริการให้ชิมฟรี ซึ่งรสชาติคงเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้า ก็เลยเลือกซื้อเพื่อไปเป็นของฝาก สำหรับมื้อเย็นของวันสุดท้ายนี้ ได้แวะรับประทานอาหารที่ร้านคุณสาหร่าย จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมของฝากและร้านอาหารขึ้นชื่อ หลังจากนั้นก็เดินทางมุ่งหน้าสู่กทม. ส่งลูกค้ากลับบ้านตามจุดต่างๆ เป็นการจบทริปอย่างสมบูรณ์แบบ
           ความรู้สึกส่วนตัวในการออกทัวร์ครั้งแรกนี้ อันดับแรก คงเป็นความตื่่นเต้นแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเหมือนได้เป็นการได้ไปดูแลและคอยบริการลูกทัวร์เป็นทริปแรก นอกเหนือจากตรงนี้แล้ว ยังเป็นการเดินทางไปภาคใต้ครั้งแรกของเราอีกด้วย และได้ยินมานานแล้วว่าทะเลภาคใต้สวยติดอันดับโลก และจังหวัดกระบี่ถือเป็นจังหวัดอันดับต้นๆ ที่มีเกาะ มีทะเลที่สวยงามมาก บอกตามตรงว่าเป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวทะเลอยู่แล้ว ส่วนมากจะชอบท่องเที่ยวทางแถบภาคเหนือ ชอบแบบบรรยากาศภูเขา ดอย ทะเลหมอก อะไรแบบนั้น จึงรู้สึกเฉยๆกับการได้ไปเที่ยวทะเลในแถบอ่าวไทยในทุกๆครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะต้องถอนคำพูดนิดหน่อย เพราะทะเลอันดามันมันสวยเหลือเกิน ทริปนี้ถึงแดดจะร้อนมาก แต่ก็สนุกดี ลูกทัวร์เฮฮา มีความสุข ถึงแม้ว่าจะมาเที่ยวกันแบบกรุ๊ปจอยกัน ต่างคนต่างมา ไม่รู้จักกันเลย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย คุยกันดี จับมือไปดำน้ำด้วยกัน เดินเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเราได้เห็นภาพแบบนี้ มันก็รู้สึกดี การมาเที่ยวกับทัวร์มันดีอย่างนี้นี่เอง นอกจากจะได้เที่ยวแบบสะดวกสบายแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่กลับไปอีกเยอะเลย


เครดิตข้อมูล :  ทัวร์กระบี่